6.11.54

น้ำมะนาวปั่น


มะนาว

มะนาวนั้น (อังกฤษ: lime) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง ผลมีรสเปรี้ยวจัด จัดอยู่ในสกุล ส้ม (Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุกจัดจะเป็นสีเหลือง เปลือกบาง ภายในมีเนื้อแบ่งกลีบๆ ชุ่มน้ำมาก นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ ด้วย

ลักษณะของต้นมะนาว
ผลมะนาวโดยทั่วไปมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 – 4.5 ซม. ต้นมะนาวเป็นไม้พุ่มเตี้ย สูงเต็มที่ราว 5 เมตร ก้านมีหนามเล็กน้อย มักมีขนดก ใบยาวเรียวเล็กน้อย คล้ายใบส้ม ส่วนดอกสีขาวอมเหลือง ปกติจะมีดอกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าหนาว จะออกผลน้อย และมีน้ำน้อย
มะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้คนในภูมิภาคนี้รู้จักและใช้ประโยชน์จากมะนาวมาช้านาน น้ำมะนาวนอกจากใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหา
รหลายประเภทแล้ว ยังนำมาใช้เป็นเครื่องดื่ม ผสมเกลือ และน้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทั่วโลก นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ เสียบไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้แต่งรส
ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน ส่วนคุณสมบัติที่สำคัญ ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมานี้ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 2) ก็คือ การส่งเสริมโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักขายโรตีมาช้านาน
ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุที่มะนาวสามารถช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เพราะในมะนาวมีไวตามินซีเป็นปริมาณมาก
มะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่ให้กลิ่นสดชื่น เพราะมีส่วนประกอบของสารซิโตรเนลลัล (Citronellal) ซิโครเนลลิล อะซีเตต (Citronellyl Acetate) ไลโมนีน (Limonene) ไลนาลูล (Linalool) เทอร์พีนีออล (Terpeneol) ฯลฯ รวมทั้งมีกรดซิตริค (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic Acid) และกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่งถือเป็นกรดผลไม้ (AHA : Alpha Hydroxy Acids) กลุ่มหนึ่ง เป็นที่ยอมรับว่าช่วยให้ผิวหน้าที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกไป พร้อมๆ กับช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ๆ ช่วยให้รอยด่างดำหรือรอยแผลเป็นจางลง

สรรพคุณทางยา
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิค ไวตามินซี จากน้ำมะนาว ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว มีไวตามินเอ และซี ทั้งยังมีธ
าตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย
มะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงตา บำรุงผิว และยังสามารถมีฤทธิ์ในการกัดด้วยเป็นต้น(ที่มา http://th.wikipedia.org)

จะเห็นว่ามะนาวเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และรสชาติที่เปรี้ยว กระชุ่มกระชวย วันนี้เราจึงขอเสนอสูตรน้ำมะนาวปั่น ซึ่งมีรสชาติที่อร่อยชื่นใจ ทำง่าย

ส่วนผสมน้ำมะนาวปั่น

น้ำแข็งบดละเอียด 2 -3 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาวคั้นสดๆ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาวคั้นสดๆ จะหอมกว่าน้ำมะนาวที่คั้นทิ้งไว้ แต่ถ้าจำเป็นต้องคั้นล่วงหน้าควรแช่ตู้เย็นไว้ก่อนใช้

1. ตักน้ำแข็งใส่โถปั่น ใส่น้ำเชื่อม เกลือป่นและน้ำมะนาว
2. เปิดสวิตซ์ปั่นจนละเอียด เทใส่แก้ว เสิร์ฟทันที


น้ำมะนาวปั่น

22.10.54

น้ำใบบัวบกปั่น



ใบบัวบกจัดเป็นพืชสมุนไพรล้มลุกที่นิยมนำมาทำเป็นน้ำสมุนไพรหรือถ้าใครต้องการทำให้แปลกขึ้นอีกนิด ก็นำมาปั่นได้ ซึ่งวันนี้เราจะขอเสนอสูตรน้ำใบบัวบกปั่น

ใบบัวบกนั้นมีลักษณะคล้ายบัว ก้านเลื้อยแผ่ไปตาม

ดิน แตกรากและใบตามข้อ ปลายก้านมีใบกลมๆ เหมือนใบบัวแต่เล็กกว่า มีรสขมอ่อนๆ กลิ่นหอม การเลือกให้เลือกบัวบกใบใหญ่สด ใบแก่ สีเขียวเข้ม ล้างห้สะอาด แล้วหั่นฝอย แต่ถ้าจะรับประทานเป็นผักสดหรือทำยำ ควรเลือกซื้อใบที่ไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป กลิ่นจะไม่แรงม
ากใบบัวบกมีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 1,243 I.U. มีวิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่ชนิดต่างๆ อ
ย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ช่วยขับปัสสาวะ แก้ช้ำใน แก้ไข้ แก้ร้อนใน ดับกระหาย คลายร้อน
สูตรน้ำปั่นวันนี้จะมีให้เลือกสองแบบคือใส่โยเกิร์ตและไม่ใส่โยเกิร์ต
น้ำใบบัวบกปั่นสูตร 1 น้ำใบบัวบกโยเกิร์ต
น้ำใบบัวบก 1 ถ้วย
โยเกิร์ตรสจืด 1/2 ถ้วย
นมสดชนิดจืด 1/4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียดรินใส่แก้วดื่ม

น้ำใบบัวบกปั่น

น้ำใบบัวบก สูตร 2
ใบบัวบกหั่นฝอย 2 ถ้วย
น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ


น้ำต้มสุกแช่เย็น 2 ถ้วยเกลือป่น 1/8 ช้อนชา


ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียดกรองด้วยผ้าขาวบาง รินใส่แก้ว ดื่ม
น้ำใบบัวบก



18.10.54

น้ำมะระปั่น

น้ำมะระปั่น
มะระนั้นจัดว่าเป็นผักสมุนไพรอย่างหนึ่งและเป็นผักที่มีรสขม เนื้อเขียวใส มีทั้งมะระจีนลูกใหญ่ และมะระขี้นกลูกเล็ก การเลือกทำน้ำมะระปั่นให้เลือกมะระจีนแก่จัด เปลือกสีเขียวอมขาว ผิวร่องไม่ลึกมาก ไม่ขรุขระมาก ล้างแล้วผ่าตามขวางเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้น นำไปแช่ในตู้เย็นให้เย็นจัด จะช่วยลดรสขมและกลิ่นเหม็นเขียวลง
เนื้อของมะระจีนประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินบีรวม และเกลือแร่ชนิดต่างๆ คือ ฟอสฟอรัส แคลเซียมเนื้อมะระมีรสขมเพราะมีสารอัลคาลอยด์ชื่อ โมโมดิซีน ช่วยให้เจริญอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ รักษาโรคเบาหวาน และสามารถต้านเชื้อไวรัส ล่าสุดพบว่ามะระขี้นกอาจช่วยต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีได้
และน้ำมะระปั่นสูตรนี้ก็ได้นำน้ำส้มเขียวหวานที่มีวิตามินซีสูง มาช่วยลดรสขมอีกด้วย เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น

ส่วนผสมของ น้ำมะระปั่น
เนื้อมะระจีนหั่นชิ้น 2 ถ้วย
น้ำส้มเขียวหวานคั้น 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 /2 ถ้วย
น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำแข็งบดละเอียด

ปั่นส่วนผสมเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้วดื่ม
หรือถ้าใครไม่ชอบน้ำมะระปั่นก็สามารถทำน้ำมะระคั้นสดแทนได้เช่นกัน โดยนำมะระไปเข้าเครื่องแยกกากนำแต่น้ำไปดื่ม
มะระ

14.10.54

สมูทตี้เผือก

สูตรน้ำปั่น วันนี้เรามีสูตรการทำสมูทตี้เผือกมาฝากกัน เรามาศึกษาถึงลักษณะตลอดจน สรรพคุณ ประโยชน์ของเผือกกันก่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ของเผือก คือ Colocasia esculenta เผือกนั้นเป็นพืชชนิดหัว หัวจะอยู่ใต้ดิน ปกติมีหัวใหญ่อยู่หัวหนึ่งและจะมีรากที่แตกแขนงออกไป มีหัวเล็กๆ อีกหลายหัว เรียกว่า ลูกเผือก ส่วนหัวใหญ่ มีลักษณะอ้วนป้อม เมื่อนึ่งจนสุกเนื้อจะร่วนซุย มีกลิ่นหอม การเลือกเผือกให้เลือกเผือกที่หัวมีน้ำหนัก เปลือกสด หัวจุกมีสีเขียวสด และเผือกจะต้องมีการเตรียมอย่างดีเพื่อไม่ให้คัน คือ ต้องล้างเผือกทั้งหัว เช็ดให้แห้งปอdเปลือกออกให้หนา เพื่อเอาสารที่ชื่อว่า แคลเซียมออกซาเลตที่อยู่ใต้เปลือกออกไป เพระสารนี้ทำให้คัน แต่จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน

คุณค่าทางอาหารและสรรพคุณของเผือก
เนื้อของเผือกมีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และเกลือแร่ชนิดต่างๆ ช่วยในการขับเสมหะ ปรับกระเพาะอาหารให้อยู่ในสภาพปกติ ช่วยบำรุงไต และขับพิษในข่องท้อง

ส่วนผสมสำหรับสมูทตี้เผือก 2 แก้ว
เนื้อเผือกนึ่งสุกหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กล้วยหอมหั่น 1/2 ลูก
นมสดชนิดจืด 1 ถ้วย
น้ำต้มสุกเย็น 1/2 ถ้วย

1.ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด
2.รินสมูทตี้เผือกใส่แก้ว จะดื่มทันทีหรือแช่เย็นก่อนดื่มก็ได้
สมูทตี้เผือก เผือก

10.10.54

เอพริคอตกับเต้าหู้ปั่น


ส่วนผสมน้ำเอพริคอตกับเต้าหู้ปั่น
•เอพริคอตแห้ง 100 กรัม
•เกรปฟรุต 1 ผล
•เต้าหู้อ่อน 100 กรัม
•อัลมอนด์ 5 กรัม
•น้ำเปล่า 1 ถ้วย


•หั่นเนื้อเอพริคอตเป็นชิ้นหยาบๆ เกรปฟรุตปอกเปลือกแกะเฉพาะเนื้อเป็นชิ้นๆ เต้าหู้อ่อนหั่นเป็นชิ้นๆ นำทั้งหมดเข้าตู้เย็น แช่ไว้ให้เย็นจัดประมาณ 1 ชั่วโมง
•ใส่ส่วนผสมที่แช่เย็นแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยอัลมอนด์ น้ำเปล่า จนเนื้อเนื้อเนียน เทใส่แก้วดื่มขณะเย็น

คุณค่าทางโภชนการน้ำเอพริคอตกับเต้าหู้ปั่น
•พลังงาน 167.7 กิโลแคลอรี
•พลังงาน 1.26 กรัม
•วิตามินเอ 115.45 ไมโครกรัม
•วิตามินซี 36 มิลลิกรัม
•ธาตุเหล็ก 3.4 มิลลิกรัม
•แคลเซียม 164.25 ไมโครกรัม
เกรปฟรุตเอพริคอต


8.10.54

น้ำสับปะรดกับกล้วยหอมปั่น

น้ำสับปะรดกับกล้วยหอมปั่น
ส่วนผสมน้ำสับปะรดกับกล้วยหอมปั่น
กล้วยหอมสุก 1 ผล
น้ำสับปะรด ½ ถ้วย
น้าผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งบด ¼ ถ้วย
ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง


1. หั่นกล้วยหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่กล้วยหอมในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำสับปะรด น้ำผึ้ง ปั่นจนส่วนผสมเนื้อเนียนเข้ากัน
3. เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่

คุณค่าทางโภชนาการ
* พลังงาน 353 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 69.1 กรัม
*วิตามินเอ 314 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 59.5 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 81.75 ไมโครกรัม

5.10.54

สมูทตี้บลูเบอร์รี่


ส่วนผสมสมูทตี้บลูเบอร์รี่
* บลูเบอร์รี่สด 100 กรัม
* นมถั่วเหลือง 200 กรัม
*ใบสะระแหน่ ½ ถ้วย
* โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
*น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
* ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีทำสมูทตี้บลูเบอร์รี่
1. แช่บลูเบอร์รี่ในช่องแช่แข็งให้เย็นจัด
2. ปั่นบลูเบอว์รี่รวมกับโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองใบสะระแหน่ และน้ำผึ้ง จนเนื้อเนียนเข้ากัน
3. เทใส่แก้ว แต่งด้วยใบสะระแหน่

คุณค่าทางโภชนาการของสมูทตี้บลูเบอร์รี่
* พลังงาน 449.9 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 59.2 กรัม
* เบต้าแคโรทีน 32.5 ไมโครกรัม
* วิตามินเอ 425.1 ไมโครกรัม
* วิตามินซี 26.2 มิลลิกรัม
* แคลเซียม 65.26 ไมโครกรัม


21.9.54

สมูทตี้ขิงกับแคนตาลูปเขียว

สมูทตี้ขิงกับแคนตาลูปเขียว
ส่วนผสมสมูทตี้ขิงกับแคนตาลูปเขียว
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
แคนตาลูปเขียว 1 ถ้วย
น้ำขิงสด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งก้อน

วิธีทำสมูทตี้ขิงกับแคนตาลูปเขียว
1. ใส่สวนผสมทั้้งหมด (ยกเว้นน้ำแข็ง) ในเครื่องปั่น
ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดีและเนื้อเนียน
2. เทใส่แก้ว ก่อนเสิร์ฟ เติมน้ำแข็งลงไปสัก 4-5 ก้อน

* พลังงาน 335.9 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 54.4 กรัม
* เบตาแคโรทีน 35.5 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 7010.6 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 66.3 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 34.3 ไมโครกรัม


13.9.54

น้ำสตรอเบอร์รี่กับมะเขือเทศปั่น

น้ำสตรอเบอร์รี่กับมะเขือเทศปั่น
ส่วนผสมน้ำสตรอเบอร์รี่กับมะเขือเทศปั่น
สตรอว์เบอร์รี่ 200 กรัม
มะเขือเทศสีดา 100 กรัม
น้ำมะเขือเทศ ½ ถ้วย
น้ำแข็ง 5 ก้อน˜
โรสแมรี่สาหรับตกแต่ง


วิธีทำน้ำสตรอเบอร์รี่กับมะเขือเทศปั่น
1. หั่นสตรอว์เบอร์รี่กับมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็ก ๆแช่ตู้เย็นไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง
2. ใส่ส่วนผสมที่แช่เย็นในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำมะเขือเทศน้ำแข็ง ปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดเนื้อเนียนเข้ากันดี
3. เทสตรอเบอร์รี่กับมะเขือเทศปั่นใส่แก้ว ประดับใบโรสแมรี่

* พลังงาน 150.5 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 36.2 กรัม
*วิตามินเอ 876 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 129 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 62.5 ไมโครกรัม

10.9.54

ลูกฟิกแห้งปั่น


ลูกฟิกลูกฟิกหรือมะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่สุกแล้วมีรสชาติหวานฉ่ำ และเมื่อนำไปอบแห้งจะมีรสชาติคล้ายอินทผลัม



ส่วนผสมลูกฟิกแห้งปั่น
* ลูกฟิกแห้ง 100 กรัม
* อัลมอนด์ 10 กรัม
* น้ำแร่ 1 ถ้วย
* น้ำแข็งบด 1/2 ถ้วย
* อัลมอนด์บดสำหรับโรยหน้า


วิธีทำลูกฟิกแห้งปั่น
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากันจนเนื้อเนียน
2. เทใส่แก้ว โรยหน้าด้วยอัลมอนด์บด

คุณค่าทางโภชนาการลูกฟิกแห้งปั่น
* พลังงาน 338.3 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 71.13 กรัม
*วิตามินเอ 25.8 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 2 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 478 ไมโครกรัม
ลูกฟิกแห้งปั่น


1.9.54

สมูทตี้แอปเปิ้ลเขียว ส้ม กับสับปะรด

สมูทตี้แอปเปิ้ลเขียว ส้ม กับสับปะรด
ส่วนผสมสมูทตี้แอปเปิ้ลเขียว ส้ม กับสับปะรด ˜
แอปเปิ้ลเขียว 300 กรัม
ส้มซันคิสต์คั้นน้ำ 125 กรัม
สับปะรด 100 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา


วิธีทำสมูทตี้แอปเปิ้ลเขียว ส้ม กับสับปะรด
1. หั่นแอปเปิ้ลเขียวและสับปะรดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่เย็น
2. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดรวมกันจนเนื้อเนียน
3. เทใส่แก้ว ดื่มทันที

* พลังงาน 284.85 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 72 กรัม
*วิตามินเอ 5201.35 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 50.5 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 85.8 ไมโครกรัม

29.8.54

สมูทตี้สูตรมะละกอกับน้ำมะเฟืองปั่น

สมูทตี้สูตรมะละกอกับน้ำมะเฟืองปั่น
ส่วนผสมสมูทตี้สูตรมะละกอกับน้ำมะเฟืองปั่น
มะละกอสุก 500 กรัม
มะเฟือง 200 กรัม
น้ำมะนาว ¼ ถ้วย
น้ำเปล่า ½ ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง 2-3 ก้อน

วิธีทำสมูทตี้สูตรมะละกอกับน้ำมะเฟืองปั่น
1. หั่นเนี้อมะละกอเป็นชิ้นใหญ่ๆ แช่เย็นไว้ 30 นาที
2. ฝานมะเฟืองเป็นชิ้นๆ แคะเม็ดออก ใส่เครื่องแยกกากคั้นเอาเเต่น้ำ
3. ใส่มะละกอในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำมะเฟือง น้ำมะนาวน้ำเปล่า น้าผึ้ง และน้ำแข็ง ปั่นจนส่วนผสมเนี้อเนียนเข้ากัน
4. เทใส่แก้ว ประดับด้วยมะเฟืองหั่นเป็นแว่นๆหรือมะละกอทำเป็นรูปดอกไม้

* พลังงาน 329.2 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 84.7 กรัม
*วิตามินเอ 6564.05 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 444.75 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 137.5 ไมโครกรัม

26.8.54

สมูทตี้สูตรพริกหวานกับมะเขือเทศปั่น

สมูทตี้สูตรพริกหวานกับมะเขือเทศปั่น
ส่วนผสมสมูทตี้สูตรพริกหวานกับมะเขือเทศปั่น
พริกหวานแดง 50 กรัม
แตงกวา 50 กรัม
ต้นหอม 30 กรัม
น้ำมะเขือเทศ ½ ถ้วย
มะเขือเทศสด 1 ลูกใหญ่
น้ำมะนาว 3 ช้อนชา
ซอสพริก 1 ช้อนชา
เกลือป่น พริกไทยป่น เล็กน้อย
ต้นหอมซอยเป็นเส้นฝอยๆสำหรับตกแต่ง
น้ำแข็งก้อน


วิธีทำสมูทตี้สูตรพริกหวานกับมะเขือเทศปั่น
1. หั่นพริกหวาน แตงกวา มะเขือเทศสด และต้นหอมเป็นชิ้นหยาบ ๆ
2. ใส่ส่วนผสมที่หั่นแล้วลงในเครื่องปั่น ปั่นรวมกับน้ำมะเขือเทศจนเข้ากัน ปิตสวิตช์
เติมน้ำมะนาว ซอสพริก เกลือ พริกไทย ปั่นอีกครั้งจนส่วนผสมเนียน
3. เทใส่แก้ว ก่อนดื่มเติมน้ำแข็งสัก 4-5 ก้อน ประดับต้วยต้นหอมชอย

* พลังงาน 211.8 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 27.5 กรัม
* เบตาแคโรทีน 20 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 5280 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 84.4 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 45.15 ไมโครกรัม

22.8.54

สมูทตี้สตรอว์เบอร์รี่กับเนยถั่ว

สมูทตี้สตรอว์เบอร์รี่กับเนยถั่ว
เนยถั่ว
สตรอว์เบอรี่นั้นช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มีวิตามินซีสูงมากป้องกันหวัดได้ถ้าทานเป็นประจำ ช่วยล้างพิษ มีพลังงานต่ำช่วยในการลดความอ้วนได้
ส่วนเนยถั่วช่วยเพิ่มความเข้มข้นและเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้น

ส่วนผสมสมูทตี้สตรอว์เบอร์รี่กับเนยถั่ว
สตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัม
เนยถั่ว 50 กรัม
น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
น้ำแข็งก้อน 2-3 ก้อน
สตรอว์เบอร์รีหั่นครึ่งผลสำหรับตกแต่ง


วิธีทำสมูทตี้สตรอว์เบอร์รี่กับเนยถั่ว
1. หั่นสตรอว์เบอร์รี่เป็นชิ้นหยาบ ๆ แช่ในตู้เย็นให้เย็นจัด
2. ใส่สตรอว์เบอร์รี่ในเครื่องปั่น ตามด้วยเนยถั่ว น้ำเปล่า น้ำแข็งปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. เทใส่แก้ว แต่งด้วยสตรอว์เบอร์รี่ที่หั่นเตรียมไว้


คุณค่าทางโภชนาการสมูทตี้สตรอว์เบอร์รี่กับเนยถั่ว
* พลังงาน 139 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 10.1 กรัม
*วิตามินเอ 17 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 53 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 292.5 ไมโครกรัม

17.8.54

สมูทตี้อินทผลัม

อินทผลัม


อินทผาลัมเป็นไม้เมืองร้อนและอากาศที่แห้งแล้งคล้ายทะเลทราย ประเทศแถบตะวันออกมีภูมิอากาศที่เหมาะสมกับไม้ผลชนิดนี้ ผลมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ออกเป็นช่อรสหวานฉ่ำ ทานได้ทั้งผลดิบและสุก เมื่อสุกแล้วเอาไปตากแห้งสามารถเก็บไว้เป็นเวลาหลายปี มีรสชาติหวานจัด จนมีคนคิดว่าเชื่อมด้วยน้ำตาล แต่ที่จริงแล้วมันหลายด้วยตัวมันเอง สรรพคุณมีมากมาย เช่น ลดเสมหะ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง คนเป็นเบาหวานก็สามารถทานได้ แก้กระหายน้ำ เป็นต้น และสูตรสมูทตี้วันนี้จึงขอแนะนำสมูทตี้อินทผลัมที่ให้คุณค่าทางโภชนการหลายอย่าง

ส่วนผสมของสมูทตี้อินทผลัม
อินทผลัมแห้ง 400 กรัม
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำสมูทตี้อินทผลัม
1. ผ่าอินทผลัม แกะเม็ดออก
2. ใส่อินทผลัมในเครี่องปั่น ตามด้วยน้ำ ปั่นให้ละเอียค
3. เทใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือด ยกลง พื้นให้เย็นนำเข้าตู้เย็น แช่ให้เย็นก่อนดื่ม

คุณค่าทางโภชนาการสมูทตี้อินทผลัม
* พลังงาน 1168 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 319.6 กรัม
*แคลเซียม 40 ไมโครกรัม


สมูทตี้อินทผลัม

1.6.54

ระกำโซดา

ระกำเป็นปาล์มแตกกอ ขนาดกลาง ลำต้นทอดเลื้อยไปตามพื้นดินแล้วตั้งขึ้น เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 20 - 30 เซนติเมตร เมื่อสุกจะมีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้ออ่อน บาง กลิ่นหอม ฉ่ำน้ำ นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ได้อร่อยชื่นใจนัก วันนี้ขอเสนอ สูตร ระกำโซดา เย็นซ่า
ระกำโซดา


ส่วนผสม
ระกำปอกเปลือกแล้ว 3-4 ผล
โซดา ? ถ้วย
เกรนาดีนไซรัปสีแดง ? ช้อนชา
น้ำตาล1/3 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำมะนาว ? ช้อนชา
เกลือนิดหน่อย

วิธีทำ
1.ผสมน้ำตาล น้ำ และเกลือป่น แล้วนำไปตั้งไฟให้ละลาย ใส่ระกำลงไปต้มไฟอ่อนๆนาน 20 นาทีจนน้ดชื่อมเริ่ทฃมเข้าเนื้อระกำ ตักขึ้นพักให้เย็น เทน้ำเชื่อมที่ได้กรองไว้ทำน้ำเชื่อมระกำ
2.หั่นเนื้อระกำเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วยีกับกระชอนให้ละเอียด แยกเนื้ออกให้ได้น้ำระกำ แล้วเติมเกรนาดีไซรัปและน้ำเชื่อระกำลงไปเล็กน้อย เทใส่แก้งเติมน้ำแข็ง ตามด้วยโซดา ระกำโซดาแยกชั้นสวยงามน่าดื่ม

เทคนิค
ใส่น้ำแข็งในน้ำระกำ(ก่อนรินโซดา) แล้วนำไปเขย่าในเชคเกอร์ ก็จะได้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบ
ถ้าไม่มีรกำ ใช้สละแทนก็ได้

29.3.54

สมูทตี้ราสป์เบอรี่กับนมถั่วเหลือง

ราสป์เบอรี่
ราสป์เบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้ที่ให้สารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ช่วยในการต่อต้านมะเร็ง ตลอดจนอัลไซเมอร์ ส่วนนมถั่วเหลืองนั้นมีโปรตีนสูง และช่วยลดไขมัน ช่วยให้ความจำดีขึ้น

ส่วนผสมสมูทตี้ราสป์เบอรี่กับนมถั่วเหลือง
1. ราสป์เบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง 100 กรัม (ถ้าเป็นราสป์เบอร์รี่สดควรแช่เย็นให้เย็นจัดก่อนนำมาปั่น)
2. นมถั่วเหลือง 250 มิลลิลิตร


วิธีทำสมูทตี้ราสป์เบอรี่กับนมถั่วเหลือง
1. ใส่ราสป์เบอร์รี่ในเครื่องปั่น ตามด้วยนมถั่วเหลืองปั่นให้ส่วนผสมเนื้อเนียนเข้ากันดี
2. เทใส่แก้ว แต่งหน้าด้วยลูกราสป์เบอร์รี่

* พลังงาน 148.5 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม
*วิตามินเอ 125 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 17 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 45 ไมโครกรัม
สมูทตี้ราสป์เบอรี่กับนมถั่วเหลือง

17.3.54

สมูทตี้กล้วยรสโกโก้

สมูทตี้กล้วยรสโกโก้
สมูทตี้สูตรนี้นำกล้วยที่มีคุณค่าสูงด้วยแคเซียม ช่วยให้ระบายมาเป็นตัวหลัก และเพื่อปรุงแต่งกลิ่นให้ดีขึ้น จึงนำผงโกโก้มาเป็นส่วนประกอบด้วย

ส่วนผสมสมูทตี้กล้วยรสโกโก้

กล้วยหอมสุก 180 กรัม
นมถั่วเหลือง ½ ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด ½ ถ้วย
ผงโกโก้ 2 ช้อนชา
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา


วิธีทำสมูทตี้กล้วยรสโกโก้

1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในเครี่องปั่น ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน
2. เทใส่แก้ว โรยหน้าด้วยผงโกโก้ที่เหลือเล็กน้อย

คุณค่าทางโภชนาการสมูทตี้กล้วยรสโกโก้

* พลังงาน 334.6 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 72.3 กรัม
* เบตาแคโรทีน 178.2 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 133.5 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 48.9 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 549.45 ไมโครกรัม

ลูกสำรองกับกีวีปั่น

ลูกสำรองกับกีวีปั่น

ลูกสำรอง มีคุณประโยชน์ในด้านการขจัดไขมันออกจากร่างกาย ส่วนกีวีนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายเลยทีเดียว

ส่วนผสมลูกสำรองกับกีวีปั่น
ลูกสำรอง 5 กรัม
กีวี 100 กรัม
น้ำแอปเปิ้ล 250 กวัม
น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง ก้อน

วิธีทำลูกสำรองกับกีวีปั่น
1. แช่ลูกสำรองในน้ำ ทิ้งไว้จนแตกเป็นเนื้อวุ้น แยกเปลือกและเม็ดทิ้ง ล้างน้ำให้สะอาด กรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอน
2. ล้างกีวีให้สะอาดและปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3. ใส่กีวีกับลูกสำรองในเครื่องปั่น ดามด้ายน้ำแอ๊ปเปิ้ล น้ำผึ้ง ปั่นจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็งสัก 4-5 ก้อน ประดับแก้วด้วยผลกีวีฝานบาง ๆ

คุณค่าทางโภชนาการลูกสำรองกับกีวีปั่น
* พลังงาน 352.27 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 55.27 กรัม
*วิตามินเอ 57.52 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 59 มิลลิกรัม
กีวีลูกสำรอง

16.3.54

น้ำผักกาดหวานกับสับปะรดปั่น

น้ำผักกาดหวานกับสับปะรดปั่น
ผักกาดหวานเป็นพืชที่รับประทานสด และสับปะรดก็ช่วยให้อาหารโดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนย่อยได้ง่ายขึ้น และเมื่อนำมาปั่นรวมกันก็จะให้วิตามินเอ ซึ่งช่วยในการบำรุงสายตาสูงมาก

ส่วนผสมน้ำผักกาดหวานกับสับปะรดปั่น
เนื้อสับปะรด 75 กรัม
ผักกาดหวาน (หรือผักกาดหอม) 200 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งบด ½ ถ้วย

วิธีทำน้ำผักกาดหวานกับสับปะรดปั่น

1. ผักกาดหวานฉีกหยาบ ๆ สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆแช่ตู้เย็นให้เย็นจัดประมาณ 30 นาที
2. ใส่ผักกาดหวานและสับปะรตในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำมะนาว
น้ำผึ้ง น้ำแข็ง ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
3. เทใส่แก้ว ดื่มสดๆทันที


* พลังงาน 129 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 28.85 กรัม
*วิตามินเอ 10042.55 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 30 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 179.6 ไมโครกรัม

9.3.54

น้ำต้นกล้าข้าวสาลี ราสป์เบอร์รี่ กับสาลีปั่น

ประโยชน์ของต้นกล้าข้าวสาลีคือ มีแร่ธาตุไม่ต่ำกว่า 90 ชนิด ตั้งแต่ แคลเซียม แมกนีเซียม อุดมไปด้วยคลอโรฟิลด์ และนิยมนำมาทำเป็นพืชล้างพิษอีกด้วย ราสป์เบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยต้านโรคมะเร็ง ต้านโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น ส่วนประโยชน์ของสาลี่หิมะคือ มีรสชาติหวานเย็น มีคุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งเมื่อนำพืชผักทั้งสามชนิดมาปั่นรวมกันก็จะได้ทั้งคุณค่าและความสดชื่นอีกด้วย
ราสป์เบอร์รี่ต้นกล้าข้าวสาลีสาลี่หิมะ
ส่วนผสมน้ำต้นกล้าข้าวสาลี ราสป์เบอร์รี่ กับสาลีปั่น
น้ำต้นข้าวสาลีอ่อน ¼ ถ้วย
สาลี่หิมะ (ผลขนาดกลาง) 1 ผล
ราสป์เบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง ½ ถ้วย
น้ำแข็งก้อน 5 ก้อน


วิธีทำน้ำต้นกล้าข้าวสาลี ราสป์เบอร์รี่ กับสาลีปั่น
1. วิธีคั้นน้ำต้นข้าวสาลีอ่อน ล้างต้นข้าวสาลีอ่อนให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด คั้นผ่านผ้าขาวบางให้เหลือแต่เฉพาะน้ำเขียว ๆให้ได้ปริมาณ ¼ ถ้วย
2. สาลี่หิมะไม่ต้องปอกเปลือก ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่งหั่นแกนกลางออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3. เทน้ำต้นข้าวสาลีลงในเครื่องปั่น ตามด้วยสาลี่หิมะ ราสป์เบอร์รี่น้ำแข็งก้อน ปั่นจนส่วนผสมเป็นเนื้อเนียนเข้ากัน
4. เทใส่แก้ว ดื่มสดๆทันที

* พลังงาน 310.5 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 33.5 กรัม
*วิตามินเอ 345.2 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 34.3 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 25 ไมโครกรัม



2.3.54

สมูตตี้ฝรั่งกับเลมอน

เลมอนฝรั่ง

ฝรั่งนั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงและมีวิตามินซีมากกว่ามะนาวถึง 4 เท่า ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น ส่วนเลมอนนั้นเป็นมะนาวลูกใหญ่เปลือกหนาสีเหลือง มีวิตามินซีสูงเช่นกัน ช่วยขับเสมหะแก้ไอได้

ส่วนผสมของสมูตตี้ฝรั่งกับเลมอน
ฝรั่งแก่จัด 250 กรัม
น้ำเลมอน ¼ ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งบด ½-1 ถ้วย
เกลือป่นนิดหน่อย

วิธีทำสมูตตี้ฝรั่งกับเลมอน
1. ล้างฝรั่งให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก คว้านเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่ฝรั่งในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเลมอน โยเกิร์ต น้ำผึ้ง เกลือป่น และน้ำแข็งบด ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและเนื้อเนียน
3. เทใส่แก้ว เท่านี้เราก็จะได้สมูตตี้ฝรั่งกับเลมอนที่แสนสดชื่นไว้ดื่มแล้ว

คุณค่าทางโภชนาการของสมูตตี้ฝรั่งกับเลมอน
* พลังงาน 451.6 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 82.9 กรัม
* เบตาแคโรทีน 32.5 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 547.6 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 412.5 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 34 ไมโครกรัม
สมูตตี้ฝรั่งกับเลมอน

23.2.54

อะโวคาโดปั่น

อะโวคาโดปั่น
อะโวคาโดเป็นพืชที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไร แต่ว่าคุณประโยชน์ภายในมากมายทั้งในด้านเป็นอาหารและเป็นพืชเสริมความงาม อุดมไปด้วยวิตามินทั้งดี อี และแร่ธาตุต่างๆ

ส่วนผสมของอะโวคาโดปั่น
อะโวคาโด 1 ผล
แอปเปิ้ลแดง 1 ผล
น้ำแอ๊ปเปิ้ล ½ ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง 2 ก้อน
ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง


วิธีทำอะโวคาโดปั่น
1. ผ่าครึ่งแอ๊ปเปิ้ลแดง ผ่าแกนกลางออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
อะโวคาโดผ่าครึ่ง แกะเม็ดออก ใช้ช้อนคว้านเอาแด่เนื้อ
2. ใส่เนื้อแอ๊ปเปิ้ลและอะโวคาโดในเครี่องปั่น ตามด้วยน้ำแอ๊ปเปิ้ล
น้ำผึ้ง น้ำแข็ง ปั่นจนส่วนผสมเนี้อเนียนเข้ากันดี
3. เทใส่แก้ว ประดับด้วยใบสะระแหน่

คุณค่าทางโภชนาการของอะโวคาโดปั่น
* พลังงาน 607.3 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 57.2 กรัม
*วิตามินเอ 280.05 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 6 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 24.15 ไมโครกรัม

19.2.54

แตงโมปั่น

แตงโมปั่น
แตงโมเป็นผลไม้ที่ให้สรรพคุณในการดับพิษร้อน ช่วยเพิ่มความสดชื่น และยังมีแร่ธาตุต่างๆ อีกมาก เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ และในหน้าร้อนถ้านำแตงโมไปทำการปั่นแทนที่จะรับประทานสดๆ ก็จะช่วยให้
เพิ่มรสชาติได้อีกแบบหนึ่ง

ส่วนผสมของแตงโมปั่น
เนื้อแตงโมหั่นชิ้นเล็ก ๆ 1500 กรัม
น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งบด 1 ถ้วย
เกลือป่นนิดหน่อย


วิธีทำแตงโมปั่น
1. แช่เนื้อแตงโมในตู้เย็นให้เย็นจัดประมาณ 2 ชั่วโมง
2. ใส่เนื้อแตงโมแช่เย็นในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำผึ้ง น้ำมะนาวเกลือป่น และน้ำแข็งบด ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. เทใส่แก้ว ดื่มสดๆทันที

คุณค่าทางโภชนาการของแตงโมปั่น
* พลังงาน 257.2 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 58.41 กรัม
* เบตาแคโรทีน 1830 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 300 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 1083.9 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 121.8 ไมโครกรัม

15.2.54

เบอร์รี่รวมมิตรปั่น

เบอร์รี่รวมมิตรปั่น
สมูตตี้แก้วนี้จะรวมไปด้วยคุณค่าอย่างมากมายจากรา
สป์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งเรามารู้จักผลประโยชน์ของพืช
ตระกูลเบอร์รี่ทั้งสามอย่างนี้กัน

ราสป์เบอร์รี่
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ต่อต้านโรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ เป็นต้น

แครนเบอร์รี่
ชะลอการเสื่อมของเซลล์ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นสดใส เป็นต้น

สตรอว์เบอร์รี่
ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มีวิตามินซีสูงมากป้องกันหวัดได้ถ้าทานเป็นประจำ ช่วยล้างพิษ มีพลังงานต่ำช่วยในการลดความอ้วนได้

จากคุณประโยชน์ที่กล่าวมาคร่าวๆ เมื่อนำมาปั่นรวมกัน จะทำให้ได้คุณประโยชน์อย่างมากมาย

ส่วนผสมของเบอร์รี่รวมมิตรปั่น
ราสป์เบอร์รี่ 100 กรัม
แครนเบอร์รี่ 100 กรัม
สตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัม
น้ำแร่ 1 ถ้วย
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา

วิธีทำเบอร์รี่รวมมิตรปั่น
1. แช่เบอร์รี่ทั้งสามในตู้เย็นให้เย็นจัด
2. ใส่ผลเบอร์รี่ทั้งหมดในเครื่องปั่น เติมน้ำแร่ น้ำผึ้ง ปั้นให้เข้ากันจนเนื้อเนียน
3. เทใส่แก้ว ดื่มสดๆขณะเย็น

คุณค่าทางโภชนาการของเบอร์รี่รวมมิตรปั่น
* พลังงาน 134.7 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 24.9 กรัม
*วิตามินเอ 93.7 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 179 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 25.1 ไมโครกรัม

13.2.54

สมูตตี้แตงกวากับใบสะระแหน่


สะระแหน่ เป็นพืชที่เย็น มีน้ำมันที่มีกลิ่นหอม ช่วยขับเหงื่อ แก้อาการเป็นลม นิยมนำมาผสมยาหรือยาอมช่วยให้เย็นชุ่มคอ ส่วนแตงกวานั้นเป็นพืชที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่ง
แตงกวามีประโยชน์ด้านความงาม ป้องกันสิวได้ และนำแตงกวามาฝานเป็นวงบางๆ วางไว้บนตาทั้งสองข้างก็จะทำให้ตามีความชุ่มชื้น บำรุงตาได้อย่างดี แต่วันนี้เราจะนำแตงกวาและสะระแหน่มาใช้เป็นเครื่องดื่ม ซึ่งมีส่วนผสมดังต่อไปนี้


ส่วนผสมสมูตตี้แตงกวากับใบสะระแหน่

แตงกวา 150 กรัม
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 150 กรัม
ใบสะระแหน่เด็ดเฉพาะใบ 1 ถ้วย
ยี่หร่าป่น 1
ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโตะ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าเย็นจัด 100 มิลลิลิตร
น้ำแข็งก้อน


วิธีทำ
1. ล้างแตงกวาให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหยาบๆใส่ในเครื่องปั่นพร้อมโยเกิร์ต
น้ำเย็นจัด ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเข้าด้วยกันน ปิดเครื่อง
2. ใส่ใบสะระแหน่ในเครื่องปั่น ตามด้วยยี่หร่าป่น น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเนื้อ
เนียน
3. เทใส่แก้ว ก่อนดื่มใส่น้ำแข็งลงไปสัก 4-5 ก้อน

คุณค่าทางโภชนาการ
* พลังงาน 244.82 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 38.6 กรัม
* เบตาแคโรทีน 79.5 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 251.55 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 45.1 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 86.55 ไมโครกรัม