ข้าวโพดนั้นมีวิตามินเอมากและมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังมี ฟอสฟอรัส เหล็กและแคลเซี่ยม ซึ่งเป็นเกลือแร่ที่จำเป็น ช่วยบำรุงสุขภาพ มีกากไยมากทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
สูตรน้ำข้าวโพด
1.เมล็ดข้าวโพดฝานเอาแต่เมล็ด 3 ถ้วยตวง
2.น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วย
3.ใบเตย 1-2 ชิ้นเล็ก
วิธีทำ
น้ำ 2 ส่วนผสมมาปั่นรวมกันให้ละเอียดที่สุด แล้วกรองเอาแต่น้ำ ใส่ใบเตยลลง นำไปตุ๋นด้วยไปปานกลาง 10-15 นาที หมั่นคนตลอดเวลาอย่าให้ข้าวโพดไหม้ กลิ่นจะไม่น่ากิน เสร็จแล้วยกลงตักใบเตยทิ้ง ดื่มแบบอุ่นหรือ นำไปแช่เย็นก็ได้
สูตรน้ำข้าวโพดผสมโยเกิร์ต
เพื่อให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่อาจนำมาดัดแปลงเพื่อให้เกิดแปลกใหม่น่ากิน
ส่วนผสม
1.น้ำข้าวโพด จากสูตร 1 ถ้วย
2.ไอศครีมวานิลา 1/4 ถ้วย
3.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ครึ่งถ้วย
4.วิปปิ้งครีม 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันให้เป็นเนื้อเดียว ใส่แก้วเสิร์ฟทันที หรือจะนำไปแช่เย็นจนเย็นจัดก่อนก็ได้
รวมสูตรน้ำผักและน้ำผลไม้ น้ำสมุนไพรต่างๆ ทั้งสดทั้งปั่น ที่ดีต่อสุขภาพ ทำกิน หรือทำขายก็ได้
19.10.52
15.10.52
สมูทตีแอปเปิ้ลและอะโวคาโด
สมูทตีแก้วนี้สามารถดื่มแทนอาหารว่างได้ ถ้าอยากเพิ่มโปรตีนลงไปให้เติมไข่ไก่ลงไป 1 ฟองทำให้อิ่มได้นานยิ่งขึ้นและเพิ่มโปรตีนให้แก่ร่างกาย
ส่วนผสม
น้ำแอบเปิล 100 ml
อะโวคาโด 1 ผลเล็ก
น้ำแข็งก้อน 2 ก้อน
แอปเปิ้ลฝานบางสำหรับแต่งหน้า
ขั้นตอนการทำ
1.ผ่าอะโวคาโดเอาเมล็ดออก ขูดเอาแต่เนื้อใส่ลงในเครื่องปั่น
2.เติมน้ำแอปเปิ้ลลงไปเติมน้ำแข็ง
3.ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเนียน เทใสแก้ว
4.แต่งด้วยแอปเปิ้บฝานบางๆ ดื่มสดๆชื่นใจ
คุณค่าทางสารอาหาร
พลังงาน 228 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
วิตามิน C 20 มิลลิกรัม
แคลเซียม 18 มิลลิกรัม
ส่วนผสม
น้ำแอบเปิล 100 ml
อะโวคาโด 1 ผลเล็ก
น้ำแข็งก้อน 2 ก้อน
แอปเปิ้ลฝานบางสำหรับแต่งหน้า
ขั้นตอนการทำ
1.ผ่าอะโวคาโดเอาเมล็ดออก ขูดเอาแต่เนื้อใส่ลงในเครื่องปั่น
2.เติมน้ำแอปเปิ้ลลงไปเติมน้ำแข็ง
3.ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเนียน เทใสแก้ว
4.แต่งด้วยแอปเปิ้บฝานบางๆ ดื่มสดๆชื่นใจ
คุณค่าทางสารอาหาร
พลังงาน 228 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
วิตามิน C 20 มิลลิกรัม
แคลเซียม 18 มิลลิกรัม
7.10.52
น้ำเสาวรส
เสาวรส (Passion Fruit)หรือกระทกรกฝรั่ง ผลกลมรี ผิวเกลี้ยงเนียน ผลดิบเปลือกสีเขียว ผลสุกมีทั้งสีเหลืองและแดงอมม่วง เนื้อในเป็นเมล็ดเล็กๆเป็นกลุ่ม รสชาติเปรี้ยวมากอมหวานนิดหน่อย อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงตับไต กำจัดพิษในเลือด แก้โรคนอนไม่หลับ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน
น้ำเสาวรส
เสาวรสสุก 2-3 ลูก
น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น ครึ่งช้อนชา
น้ำเชื่อม ครึ่งถ้วยตวง
ขั้นตอนการทำ
ล้างเสาวรสให้สะอาดแล้วผ่าครึ่งควักเอาเมล็ดออกมา นำไปปั่นกับน้ำต้มสุก แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเมล็ดออกให้หมด เติมเกลือป่น และน้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันทีหรือถ้าชอบเย็นๆนำไปแช่ให้เย็นก่อนค่อยดื่ม
น้ำเสาวรสผสมแครอท
เสาวรสสุก 2-3 ลูก
น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
แครอทสด 1 หัว
ขั้นตอนการทำ
ล้างเสาวรสแล้วควักเอาเมล็ดออกให้หมด ปั่นกับน้ำต้มสุกกรองเอาแต่น้ำ ล้างแครอทให้สะอาดปอกเปลือกแครอทออก ผ่าเป็นชิ้นแล้วนำไปคั้นน้ำด้วยเครื่องคั้นน้ำแยกกาก นำส่วนผสมน้ำแครอทที่ได้ไปผสมกับน้ำเสาวรสคนๆให้เข้ากันแล้วดื่มสดๆ หรือถ้าชอบหวานเติมน้ำเชื่อมกับเกลือป่นเล็กน้อย ดื่มชื่นใจ
แครอท มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดอนุมูลอิสระและบำรุงผิวพรรณ
น้ำเสาวรส
เสาวรสสุก 2-3 ลูก
น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น ครึ่งช้อนชา
น้ำเชื่อม ครึ่งถ้วยตวง
ขั้นตอนการทำ
ล้างเสาวรสให้สะอาดแล้วผ่าครึ่งควักเอาเมล็ดออกมา นำไปปั่นกับน้ำต้มสุก แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเมล็ดออกให้หมด เติมเกลือป่น และน้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันทีหรือถ้าชอบเย็นๆนำไปแช่ให้เย็นก่อนค่อยดื่ม
น้ำเสาวรสผสมแครอท
เสาวรสสุก 2-3 ลูก
น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
แครอทสด 1 หัว
ขั้นตอนการทำ
ล้างเสาวรสแล้วควักเอาเมล็ดออกให้หมด ปั่นกับน้ำต้มสุกกรองเอาแต่น้ำ ล้างแครอทให้สะอาดปอกเปลือกแครอทออก ผ่าเป็นชิ้นแล้วนำไปคั้นน้ำด้วยเครื่องคั้นน้ำแยกกาก นำส่วนผสมน้ำแครอทที่ได้ไปผสมกับน้ำเสาวรสคนๆให้เข้ากันแล้วดื่มสดๆ หรือถ้าชอบหวานเติมน้ำเชื่อมกับเกลือป่นเล็กน้อย ดื่มชื่นใจ
แครอท มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดอนุมูลอิสระและบำรุงผิวพรรณ
5.10.52
น้ำบีทรูท
บีทรูทเป็นพืชหัว จำพวกผักกาดหัวเขตหนาวมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน บีทรูทสดๆจะมีสีแดงอมม่วง บีรุทจะมีวิตามินเอ บีรวม และสาร เบทานิน มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญของเนื้องอกและมะเร็ง ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมดี
สูตรน้ำบีทรูท
1.บีทรูทสด 5-6 หัว
2.น้ำแข็งก้อน
ขั้นตอนการทำ
ล้างแล้วปอกเปลือกบีทรูทให้สะอาด คั้นเอาแต่น้ำโดยใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้ เติมน้ำแข็งลงไปใช้ดื่มสดๆ
สูตรน้ำบีทรูทผสมสับปะรด
บีทรูทสด 5 หัว
1.สับปะรดหั่น 2-3 ชิ้น
2.น้ำแข็งบด 1/2 ถ้วยตวง
ขั้นตอนการทำ
1.ล้างบีทรูทและปอกเปลือกให้สะอาด ผ่าเป็นชิ้นๆนำไปคั้นเอาแต่น้ำ ด้วยเครื่องคั้นน้ำผลไม้ แล้วคั้นเอาแต่น้ำสับปะรดเช่นกัน
2.รินน้ำบีทรูทและน้ำสับปะรดคนๆให้ผสมกันเติมน้ำแข็ง ดื่มสดๆได้ทันที
หรือถ้าชอบแบบปั่น อาจจะดัดแปลงเป็นบีทรูทปั่นด้วยเครื่องปั่น ให้เนื้อเนียนละเอียดแบบสมูตตี้ ถ้าชอบหวานเติมน้ำเชื่อมและเกลือลงไปนิดหน่อย จะเพิ่มรสชาติให้น่าดื่มมากยิ่งขึ้น
สูตรน้ำบีทรูท
1.บีทรูทสด 5-6 หัว
2.น้ำแข็งก้อน
ขั้นตอนการทำ
ล้างแล้วปอกเปลือกบีทรูทให้สะอาด คั้นเอาแต่น้ำโดยใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้ เติมน้ำแข็งลงไปใช้ดื่มสดๆ
สูตรน้ำบีทรูทผสมสับปะรด
บีทรูทสด 5 หัว
1.สับปะรดหั่น 2-3 ชิ้น
2.น้ำแข็งบด 1/2 ถ้วยตวง
ขั้นตอนการทำ
1.ล้างบีทรูทและปอกเปลือกให้สะอาด ผ่าเป็นชิ้นๆนำไปคั้นเอาแต่น้ำ ด้วยเครื่องคั้นน้ำผลไม้ แล้วคั้นเอาแต่น้ำสับปะรดเช่นกัน
2.รินน้ำบีทรูทและน้ำสับปะรดคนๆให้ผสมกันเติมน้ำแข็ง ดื่มสดๆได้ทันที
หรือถ้าชอบแบบปั่น อาจจะดัดแปลงเป็นบีทรูทปั่นด้วยเครื่องปั่น ให้เนื้อเนียนละเอียดแบบสมูตตี้ ถ้าชอบหวานเติมน้ำเชื่อมและเกลือลงไปนิดหน่อย จะเพิ่มรสชาติให้น่าดื่มมากยิ่งขึ้น
2.10.52
น้ำราสป์เบอร์รี่ปั่น
ราสป์เบอร์รี่ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ ส่วนในถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยไฟโทเอสโทเจนป้องกันมะเร็งทรวงอกและมะเร็งรังไข่ได้ดี สูตรนี้เหมาะกับคุณสุภาพสตรีเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนผสม
ส่วนผสม
ผลราสป์เบอร์รี่ 100 กรัม หรือ 3.5 ออนซ์
นมถั่วเหลือง 150 ml
ขั้นตอนการทำ
นำผลราสป์เบอร์รี่ มาลงเครื่องปั่นโดยปั่นรวมกับนมถั่วเหลือง จนส่วผสมละเอียดเนียนเข้ากันได้ดี
เทใส่แก้ว ปริมาณที่ได้จะประมาณ 200 ml หรือ 1 ออนซ์พอดี
ผลราสป์เบอร์รี่สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า เช่น แมคโคร ,ฟู้ดส์แลนด์,คาร์ฟูร์ จะอยู่ในรูปแช่แข็ง
นมถั่วเหลือง 150 ml
ขั้นตอนการทำ
นำผลราสป์เบอร์รี่ มาลงเครื่องปั่นโดยปั่นรวมกับนมถั่วเหลือง จนส่วผสมละเอียดเนียนเข้ากันได้ดี
เทใส่แก้ว ปริมาณที่ได้จะประมาณ 200 ml หรือ 1 ออนซ์พอดี
ผลราสป์เบอร์รี่สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า เช่น แมคโคร ,ฟู้ดส์แลนด์,คาร์ฟูร์ จะอยู่ในรูปแช่แข็ง
1.10.52
น้ำกระเจี๊ยบสด
กระเจี๊ยบแดง หรือ Roselle อุดมไปด้วย วิตามิน เอ ซี กรดซิตริก มีสรรพคุณ เป็นยาช่วยขับปัสาวะ ลดความดันโลหิต แก้กระหาย ขับเสมหะ
สูตรน้ำกระเจี๊ยบสด
กระเจี๊ยบสด 150 กรัม
นำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. ล้างทำความสะอาดกระเจี๊ยบ แกะเอาเฉพาะกลีบเลี้ยง
2. ตั้งหม้อใส่น้ำลงต้ม ใช้ไฟปานกลางจนเดือดใส่กลีบกระเจี๊ยบลงไปต้มประมาณ 30 นาที
3. กรองเอากลีบกระเจี๊ยบออกให้หมด ตั้งหม้อต่อ ใส่น้ำตาล เกลือ คนให้ละลาย ปิดไฟยกลง รอให้เย็น
4. รินใส่แก้วเติมน้ำแข็งดื่มชื่นใจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)