7.6.53

สีสันของผักผลไม้บอกอะไร เราได้บ้าง


สีสันของผักผลไม้บอกอะไร เราได้บ้าง

สีสันของผักและผลไม้นอกจากจะสร้างความสะดุดตาให้ผักและผลไม้ดูสดน่ากิน แล้วยังสามารถบ่งบอกถึงคุณประใยชน์ได้อีก
นานัปการทีเดียว ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการบอกว่า การกินผักผลไม้ที่มีสีสันหลากหลายนั้นแสดงถึงอาหารที่กิน
จะอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ ผักผลไม้ทั่วไปมีไขมันค่อนข้างต่ำ มีคาร์โบไฮเดรตน้อยและจะช่วยควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ผักผลไม้
ยังมีปริมาณสาร anti-oxidant ช่วยป้องกันมิให้ LDL คอเลสเตอรอลไปเกาะที่เส้นเลือดจนเส้นเลือดอุดตัน หากกินผักผลไม้หลากสี
จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคมะเร็งบางชนิด สีของพืชผักผลไม้มีความหมายในเชิง
คุณค่าทางโภชนาการชึ่งมีผลต่อสุขภาพที่ผู้บริโภคควรให้ความสนใจและบริโภคประจำ ดังนี้

สีชมพูจนถึงสีแดงเข้ม
ผักผลไม้ที่มีสีแดง นี้จะมีสารแอนติออกชิแดนท์ไลโคปีน สารชนิดนี้จะทำลายอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์
และช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมทั้งป้องกันโรคปอดและโรคหัวใจ ช่วยต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอริ้วรอยอ่อนวัย
และต้านมะเร็ง

สีเขียว
ผักผลไม้สีเขียว จะอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี สารสีเขียวเข้มจะมีแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและเรตินา ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของมะเร็งบางชนิด
นอกจากแคโรทีนอยด์แล้วยังมีสารโฟเลตที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารกที่อยู่ในครรภ์ และช่วยยับยั้งปฎิกิริยาของสารก่อมะเร็ง

สีเหลือง
ผักผลไม้ที่มีสีเหลีอง จะมีวิตามิน C แมงกานีส และเอนไซม์ ช่วยในการย่อยนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของ สารลูเทอีน,ซีแซนทิน
ช่วยลดความเสี่ยงต่การเกิด ต้อกระจกและรอยดำบนผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น

สีส้ม
ผักผลไม้สีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีนช่วยในระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันเรตินา ช่วยป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการถูกิ ทำลาย และซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ยัง
อุดมด้วยโฟเลตและวิตามินบี ซึ่งป้องกันความผิดปกติของทารกที่อยู่ในครรภ์ ผลไม้บางชนิดที่เป็นสีส้มอ่อนจะมีคริปโดแทนซินซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ


สีน้ำเงินและสีม่วง
ผักผลไม้ที่มีสีม่วง นี้จะมีสารแอนโทไซยานิน ช่วยชะลอการแก่ของเซลล์และป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดหัวใจนอกจากนี้ช่วยต่อต้านสาร
ก่อมะเร็ง ผักผลไม้สีน้ำเงินและสีม่วงยังอุดมด้วยใยอาหารและโพเเทสเซียม

สีขาว
ผักและผลไม้ที่มีสีขาว จะอุดมไปด้วยสารอัลลิซิน ซึ่งช่วยด้านการเกิดเนื้อร้าย อันจะก่อให้เกิดมะเร็งต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น