28.9.53

น้ำกีวี

น้ำกีวี
กีวี
ผลกีวี ถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน แต่ไม่นิยมปลูกให้แพร่หลาย
แต่กลับไปปลูกมากที่ประเทศนิวซีแลนด์และอเมริกาไม่มีปรากฏว่า
กีวีชอบอากาศหนาวเย็นและความชื้นสูง ผลกีวีสามารถเก็บไว้ได้
นานครึ่งปี ถึงหนึ่งปีโดยไม่เสียเพราะมีเปลือกหนาสีน้ำตาล มีขนสีน้ำตาลอยู่
รอบๆเปลือกเวลาที่ปอกเปลือกแล้วผ่าออกมาจะมีสีเขียวใส มีเมล็ดพดำเล็ก ๆ
อยุ่ตรงกลาง มีรสหวานอมเปรี้ยว
ส่วนผสม
ผลกีวีเอาเฉพาะเนื้อ 6 ผล
น้ำเชื่อม 1 ถึง 1/2 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 3 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.นำผลกีวีมาปอกเปลือก หั่นเนื้อกีวีให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นำใส่โถปั่น
2.ใส่น้ำเชื่อมและน้ำต้มสุก เกลือ จากนั้นปั่นเข้ากันจนละเอียด จะได้น้ำกีวี สีเขียวใสน่ารับประทาน
3.นำไปแช่เย็นหรือดื่มพร้อมกับน้ำแข็ง ดื่มแล้วสดชึ่นหวาน อร่อย หอมชื่นใจ

15.9.53

น้ำมะละกอ (papaya juice)

น้ำมะละกอ


มะละกอเป็นไม้ยืนต้นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นตั้งตรงไม่แตกกิ่งก้านใบเดี่ยว
ขนานใหญ่ ขอบใบหยัก เว้าลึก แยกเป็นแฉก 7-9 แฉก ก้านใบยาว กลางดอก
เป็นสีขาว หรือเหลืองอ่อน มี 5 กลีบ มีกลิ่นหอม ผลมีรูป ร่างกลมยาวรี หรือทรงกระบอก
ผลดิบมีสีเขียว มียางมาก น้ำยางสีขาว ผลสุกมีสีเหลืองอมส้ม มีหลายพันธุ์บางพันธุ์เนึ้อหนา มีเมล็ดน้อยบางพันธุ์เมล็ดมาก เมล็ดมีผิวขรุขระมีเยื่อหุ้มใส ๆ โดยรอบเมล็ด
นอกจากจะนำผลสดมาประกอบอาหารคาวแล้ว ยังสามารถนำผลสุกมาทำเป้นนำผลไม้ได้ด้วย เช่น น้ำมะละกอ (papaya juice)
มะละกอสุก

ประโยชน์ มะละกอ
ผลดิบมียาง แคลเซียม วิตามินc สูง ผลสุก มีวิตามิน A สูง วิตามิน cมีสารเพกติน เหล็ก แคลเซียม ยาง ช่วยกัดแผลรักษาตาปลา ใช้ป้องกันยุง ฆ่าพยาธิ ผลดิบ ใช้ทำส้มตำ แกงส้ม แกงคั่ว ต้มจิ้มน้ำพริก ต้มจับฉ่าย


*ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงธาตุ ไข้กลนและ ทำซอส หรือเป็นส่วนผสมของซอส

ส่วนผสมน้ำมะละกอ
เนื้อมะละกอสุก 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 3 ถ้วยตวง


วิธีทำ
ปอกเปลือกมะละกอเอาเมล็ดออก ล้างน้ำให้สะอากและหมดยาง เอาแต่เนื้อ
ใส่โถปั่นจนละเอียด แล้วเติมน้ำเชื่อม เกลือป่น น้ำต้มสุก ปั่นต่อไปให้ละเอียด ชิมดูรสชาติให้ถูกใจ สามารถเทใส่แก้วดื่มได้ทันที หรือจะนำเข้าแช่ตู้เย็น หรือจะดื่มโดยใส่น้ำแข็งได้รสชาติดี

8.9.53

น้ำมะยงชิด

น้ำมะยงชิด
มะยงชิด เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับมะปราง ผลดิบมีรสชาติเปรี้ยว ผลสุกมีรสหวานอมเปรี้ยว ขนาดของผลจะมีขนาดใหญ่กว่ามะปรางหวาน เวลารับประทานจะไม่ทำให้เกิดอาการคันคอ ผลสุกจะมีสีออกเหลืองอมส้ม สามารถนำมาทำเป็นน้ำมะยงชิดได้เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีวิตามินซีสูง มีกากไยอาหารมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

ส่วนผสม
เนื้อมะยงชิดยีละเอียต 400 กรัม
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา


วิธีทำ
1. ผสมเนื้อมะยงชิดกับน้ำ แล้วนำไปต้มให้เดือด
2. ปรุงรสด้วย น้ำผึ้ง เกลือ แล้วคนให้ละลาย พอเดือดยกลง กรองผ่านผ้าขาวบางหรือกระชอน แล้วพักให้เย็น
3. ก่อนดื่มใส่น้ำแข็ง หรือกรอกใส่ขวด แช่เย็นดื่มชื่นใจ

คุณค่าทางโภชนาการ
ให้พลังงาน 2ึ72.6 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 66.3 กรัม
วิตามินเอ 115.05 ไมโครกรัม
วิตามินชี 100 มิลลิกรัม
แคลเซียม 12.15 ไมโครกรัม

3.9.53

สตรอว์เบอร์รี่ สมูทตี้

สตรอว์เบอร์รี่ สมูทตี้
ส่วนผสม
สตรอว์เบอร์รี่ สมูทตี้ แก้วนี้ไม่ผสมน้ำตาลได้ประโยน์จากคุณค่าของผลไม้ล้วนๆ ความหวานได้จากเนื้อมะม่วง เปรี้ยวจากสตอว์เบอร์รี่ และน้ำส้มที่เข้ามาเติมความสดชื่น อุดมคุณค่าด้วยวิตามิน C

ส่วนผสม
* สตรอว์เบอร์รี่ 125 กรัม
* มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 400 กรัม
* น้ำส้ม 300 มิลลิลิตร
ส้มซันคิสต์ฝานเป็นแว่นบาง ๆ และใบสะระเเหน่สำหรับตกแตงแก้วเพื่อแลดูสวยงาม

วิธีทำ
1.หั่นสตรอว์เบอร์รี่และมะม่วงสุกเป็นชิ้นแล้ว ใส่ตู้เย็นแช่ไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง
2.ใส่ส่านผสมทุกอย่าง ในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นให้เนื้อเนียน
3.เทใส่แก้ว แต่งด้วยส้มซันคิสต์ฝานบาง ๆ และใบสะระแหน่

คุณค่าทางโภชนาการ

*พลังงาน 413.75 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 102.8 กรัม
* บิดามินเอ 24,532 ไมโครกรัม
* วิตามินซี 294.25 มิลลิกรัม
* แคลเซียม 164.25 ไมโครกรัม