25.5.53

การทำน้ำตะไคร้





การทำน้ำตระไคร้(Lemon Grass)
ตระไคร้เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่โบราณ รู้กันดีว่ามีสรรพคุณทางสมุนไพร แก้อาการได้หลายอย่าง ทั้งแก้ จุกเสียด แน่นท้อง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ แก้วิงเวียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ แถมยังมีวิตามิน เอ และเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ
ตระไคร้ นอกจากนำมาประกอบเป็นเครื่องแกงแกงในครัวแล้วยังสามารถนำมาทำเป็น น้ำสมุนไพรใช้ดื่มได้ รสชาติ ชุ่มคอชื่นใจ

น้ำตระไคร้


ส่วนผสม

ต้นตะไคั้หั่นฝอย 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
ใบตระไคร้หั่นนิดหน่อย

วิธีทำ
1.แบ่งน้ำมา 2 ถ้วย ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ ลงไปต้มประมาณ 10-15 นาที พอมีกลิ่นหอมและเริ่มออกสีเขียวอ่อน ยกลง
กรองใส่หม้อ ใส่น้ำตาลลงไปแล้วคนจนละลาย พักไว้ก่อน จากนั้น นำใบตระไคร้ซอยปั่น
ใบตไคร้กับนำ 1 ถ้วยที่เหลือให้ละเอียด จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบางหลาย ๆชั้นเอาแต่นน้ำ ผสมลงในหม้อน้ำตะไครที่ต้มแล้ว คนให้เขากัน ตั้งไฟอีกครั้งพอ
เดือด ยกลง พร้อมดื่มได้ จะเสิร์ฟแบบร้อนหรือแบบเย็นก็ได้ตามใจ
หรืออาจจะนำไปบรรจุขวด แล้วนำไปแช่เย็น เวลาดื่มจะใส่น้ำแข็งเพิ่มความเย็นอีกก็ได้

อาจจะดัดแปลงด้วยการเพิ่มน้ำมะนาวลงในแก้วประมาณ 1 -2 ช้อนชาตอ 1 แก้ว ก้ได้ จะได้รสชาติแปลกใหม่ขึ้น ทั้งยังได้วิตามินซีจากมะนาวเพิ่มด้วย

พั้นซ์ตะไคร้

ส่วนผสม
ตะไครซอยครึ่งถ้วย
น้ำสับปะรด 1 ถ้วย
ขิงแก่หั่นชิ้น 1 แง่ง
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ
1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ลงต้มนานประมาณ 5-10 นาที พอมีกลิ่นหอม ยกลง พักไว้ใหเย็น
2.คั้นขิงด้วยเครื่องแยกกากแยกเอาแต่น้ำ ตวงไว้ 3 ช้อนโต๊ะ พักไวั
3. ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เขากัน แช่
เย็น รินใส่แกว ดื่มได้ทันที่ ขิงสรรพคุร แก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ

20.5.53

วิธีการเลือกเครื่องทำน้ำผลไม้












น้ำผักผลไม้ น้ำปั่น สมูทตี้
การทำน้ำผักผลไม้ หรือการทำน้ำปั่น สมูทตี้ นั้นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ที่เกี่ยวข้องกันหลายอย่าง
เครื่องดื่มที่เราเรียกกันว่า สมูทตี้(Smoothie) แตกต่างจากน้ำปั่นอย่างไร เพราะทั้งสองอย่างนี้ใช้อุปกรณ์ในการทำที่ที่เหมือนๆกัน เพียงแต่ในการทำสมูทตี้ นั้น การเลือกใช้เครื่องปั่นต้องเลือกที่มารอบความเร็วสูงๆที่สามารถปั่นเครื่องดื่มได้เนียนละเอียด
แทบจะเป็นเนื้อครีมเลยทีเดียว และเนื่องจากจะต้องปั่นส่วนผสมทุกชนิดให้ละเอียดจนเนี้อเนียนนุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความนุ่มให้เครี่องดื่มด้วย เช่น นม โยเกึร์ต
ครีม ฯลฯ
เพราะเมื่อดื่ม ปลายลิ้นจะสัมผัสได้ถึงความละเอียด เนียนุ่ม อ่อนละมุนของเครื่องคี่มผ่านสู่ลำคอส่วนในการทำน้ำปั่นเราจะใช้ระดับความเร็วไม่ต้องสูงเพราะไม่จำเป็นต้องปั้นให้ส่วนผสมละเอียดมาก
อาจจะมีเกล็ดน้ำแข็งให้เคี้ยวกรุบกรับอยู่ในปากได้บ้าง แต่สำหรับ น้ำผักหรือ น้ำผลไม้เกิดจากภารคั้นให้เหลือแต่น้ำ จะใช้เครื่องคั้น
น้ำผลไม้แบบแยกกากเพื่อให้ได้เฉพาะน้ำผลไม้บริสุทธิ์ไม่มีกากผสมอยู่เลย แล้วแต่กรรมวิธีที่แต่ละคนถนัค






วิธีการเลือกเครื่องทำน้ำผลไม้
มาดูวิธีการเลือกเครื่องทำน้ำผลไม้กัน ในอดีตมนษย์ใช้วิธีการ บีบขยำ ขยี้ เพื่อคั้นผักและผลไม้ให้เป็นน้ำสำหรับดื่มกินแก้กระหาย อาจจะใช้วิธีการกรองเข้ามาช่วยบ้าง แต่เมื่อมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาและคิดค้นสร้างเครื่องมือสำหรับอำนวยความสะดวกให้ตนเอง จึงเกิดอุปกรณ์ในการทำน้ำผักผลไม้ขึ้นมามากมายหลายชนิด และทุกอุปกรณ์
ดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญในการทำให้น้ำผักน้ำผลไม้ให้รสชาติอร่อยและยังคงคุณค่าจากผักผลไม้ที่เราต้องการไว้ครบถ้วนอีกด้วย
ดังนั้น การเลือกอุปกรณ์ในการทำน้ำผักผลไม้ไม่ใช่ดูที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเลือกอุปกรณ์ ให้เหมาะสมกับการนำมาใช้งานจริงๆ

คุณลักษณะของอุปกรณ์ที่เราต้องต้องพิจารณา คุณสมบัติ ดังนี้

1.เครื่องปั่น (Blender)
ควรเลือกแบบที่ปรับความเร็วได้หลายระดับ เพราะจำเป็นต้องใช้ปั่นน้ำแข็งและผลไม้แช่แข็งด้วย เหมาะสมที่จะปั่นพวกผักและผลไม้ ที่ไม่สามารถนำเข้าเครื่องแยกกากได้ อย่างเช่น กีวี แคนตาลูป กล้วยหอม อะโวคาโด มะละกอสุก ฯลฯ

2.เครื่องคั้นน้ำผักผลไม้ (Juicer) มีอยู่ ด้วยกัน2 แบบ
แบบที่นิยมกันโดยทั่วไปคือเครี่องคั้นชนิดปั่น (CentrifugaI Juicer) โดยหลักการคือ ผักและผลไม้ถูกปั่นด้วยใบพัดจนละเอียด และถูกเหวี่ยงจะแยกน้ำออกมาจากกากไย น้ำผักผลไม้จะไหลลงมาในภาชนะรองรับ สามารถนำมาดื่มได้ทันทีเลย ส่วนกากยังคงค้างอยูปริมาณน้ำ ที่ได้จะน้อยกว่าเครี่องคั้นแบบที่สองที่เป็นเครื่องแยกกาก (Masticating Juicer) เครื่องจะทำงานโดยการบดผักผลไม้จนละเอียด ก่อน
โดยใช้แรงอัดเข้ากับตะแกรงรองกาก จึงทำให้กากผักผลไม้แห้งสนิท และได้น้ำในปริมาณมากที่สาคัญ เอ็มไซม์ในผักและผลไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย หากจะทำเป็นพาณิชย์ควรคิดถึงการคุ้มทุนในระยะด้วย เพราะการใช้งานต้องหนักหน่วงการการทำกินเองที่บ้านอย่างแน่นอน


11.5.53

น้ำใบเตย



น้ำใบเตย


ส่วนผสม
1. ใบเตยหั่น 2 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำ 4 ถ้วยตวง
4. น้ำแข็ง ก้อน

ขั้นตอนการทำ
1.นำใบเตยมาล้างทำความสะอาด และหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆให้ได้ 2 ถ้วย แบ่งมาครึ่งหนึ่ง นำมาปั่นกับน้ำสะอาด กรองเอาแต่น้ำแยกกากออก พักไว้ก่อน
2. ตั้งหม้อต้มน้ำใช้ไฟปานกลาง พอน้ำเดือด ใส่ใบเตยที่เหลือลงไปต้มกับน้ำ 5-10 นาที ใส่น้ำตาลลงไปคนให้ละลาย ปิดไฟ กรองเอาใบเตยออก เอาแต่น้ำ ทิ้งไว้ให้อุ่นๆแล้วเติมน้ำใบเตยที่ปั่นไว้ลงไป ใส่น้ำแข็ง ดื่มได้ทันที สดชื่นมากๆ





น้ำใบเตยผสมแคนตาลูป
ส่วนผสม
1. น้ำใบเตย 1 ถ้วย
2. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
3. เนี้อแคนตาลูปสีเขียว 1 ถ้วย
4. น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ
1.ใส่ส่วนผสมทั้งหมด ลงในโถปั่น ปั่นเข้าด้วยกันให้ละเอียด
รินใส่แก้ว ดื่มทันที

สรรพคุณ ของใบเตย

ใบเตยเป็นพืชตระกลูหญ้า ชอบขึ้นในที่ชื้น มีลักษณะเป็นกอใหญ่ ใบสดมีสีเขียว มีกลิ่นหอม เกิดจากน้ำมันหอมระเหย ในใบ รสชาติหวาน กลิ่นหอม นิยมให้แต่งรสอาหาร ขนมหวาน
เป็นสารคลอโรฟิลล์ช่วยลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น อีกทั้งมีเกลือแร่ แคลเซียม
และ ฟอสฟอรัส

4.5.53

น้ำกระหล่ำปลี



น้ำกระหล่ำปลี

กระหล่ำปลีเป็นผักใบ ที่มีรสชาติหวานกรอบอร่อย นอกจากปรุงเป้นอาหารแล้วยังสามารถนำมาทำเป้นน้ำผักเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย
ส่วนผสมน้ำกระหล่ำปลี
-กะหล่ำปลีหั่นละเอียด 1 ถ้วย
-น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น1 /4 ช้อนชา
-น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 /2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
- ปั่นส่วนผสมทั้งหมด เข้ากันด้วย จน
ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง รินใส่แก้ว ดื่มทัน

น้ำกระหล่ำปลีผสม
สับปะรดหั่นชิ้น 1 ถ้วย
น้ำกะหล่ำปลี (ตามสูตร) 1 /2 ถ้วย
มะนาวหั่นแว่นและสับปะรดหั่นชิ้นสำหรับ ตกแต่ง
ขั้นตอนการทำ

1.ใส่เนื้อสับปะรดลงในเครื่องแยกกาก คั้นเอาแต่น้ำ
สับปะรต นำไปผสมกับน้ำกะหล่ำปลีในแก้ว คนให้เข้ากันดี รินใส่แก้ว ตก
แต่งด้วยมะนาวหั่นแว่นและสับปะรดหั่นชิ้
ดื่ม ทันที

สรรพคุณและคุณค่าอาหาร
กระหล่ำปลีเป็นผักที่มีวิตามินC สูงมากนิดหนึ่ง รวมทั้งยังมี วิตามินA ,B1 ,B2 ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ มีสารกลูตามีน ช่วยเคลือบกระเพาะ ต้านมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ระงับประสาททำให้นอนหลับสบาย

3.5.53

สมูทตี้มะเขือเทศกับแตงกวา





สมูทตี้มะเขือเทศกับแตงกวา

ส่วนผสม
- มะเขือเทศลูกใหญ่ 200 กรัม
- แตงกวา 1oo กรัม
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- นมเปรี้ยวรสรรมชาติ 125 กรัม
- ผงขมิ้นเล็กน้อย
- นมถั่วเหลือง 250 มิลลิลิตร

ขั้นตอนการทำ
1. ล้างมะเขือเทศและแตงกวาให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
แช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที
2. ใส่มะเขือเทศและแตงกวาลงในเครี่องปั่น ตามด้วยนมเปรี้ยว
นมถั่วเหลือง น้ำผึ้ง และผงขมิ้นเล็กน้อย
ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเนียนละเอียด พร้อมเสิร์ฟทันที



สมูทตี้ น้ำสับปะรด น้ำส้ม น้ำขิง และโยเกิร์ต

ส่วนผสม
- น้ำสับปะรดคั้นสด120 กรัม
- น้ำส้มคั้น 120 กรัม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 250 กรัม
- น้ำขิงคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงสดขูด 1 ช้อนชา
- น้ำแข็งก้อน 5-6 ก้อน

ขั้นตอนการทำ
1. คั้นน้ำขิงสด นำขิงขูดกับที่ขูดให้เป็นฝอยๆจากนั้นใส่กระชอน ใช้มือบีบขิงฝอย้ไห้เหลีอแต่น้ำ
2.ใส่ส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นน้ำแข็ง) ลงในเครื่องปั่นปั่นจนเนื้อเนียน
3. เทไส่แก้ว เติมน้ำแข็งก้อน ดื่มสดๆ ทันทื สดชื่นมากๆ